10 วิธีการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านอย่างไรให้ผู้สูงวัยปลื้ม

การดูแลผู้สูงอายุอาจเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้ใครหลายๆ คน แต่ในความเป็นจริงแล้วหากดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวด้วยความรักและความเข้าใจ และเตรียมพร้อมจัดสรรเรื่องค่าใช้จ่าย การรับมือกับผู้สูงอายุให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ในพริบตา เรามาลองดูแนวทางการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านง่ายๆ แต่รับรองว่าจะทำให้พวกท่านรับรู้ได้ถึงความใส่ใจกันดีกว่า
แนะนำการดูแลผู้สูงอายุ ด้วยวัฒนธรรมไทยที่ส่วนใหญ่จะอาศัยร่วมกับผู้สูงอายุในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า หรือคุณตาคุณยาย ซึ่งเป็นเรื่องที่สะดวกและง่ายเพราะผู้สูงอายุอยู่ใกล้ชิด นอกจากจะมีโอกาสแสดงความรักและความเอาใจใส่ต่อผู้สูงอายุอย่างสม่ำเสมอแล้ว ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามดังนี้   กินดีอยู่ดี สุขภาพดีจากภายใน อาหารการกินนั้นเป็นตัวแปลสำคัญมากสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ เพราะผู้สูงอายุเป็นวัยที่ร่างกายมีความต้องการพลังงานน้อยลงเนื่องจากมีกิจกรรมให้ทำในแต่ละวันไม่มากนัก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเน้นเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และย่อยง่าย เช่น ผัก ผลไม้ หรือเลือกทานอาหารที่ปรุงโดยใช้การ ต้ม ย่าง นึ่งเป็นหลัก หลีกเลี่ยงของทอดของมัน และอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมัน ที่นอกจากจะย่อยยากแล้ว ยังมีโอกาสทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาอีกด้วย
ควบคุมน้ำหนักของผู้สูงอายุอย่าให้น้ำหนักเกิน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ หากมีน้ำหนักที่มากเกินไป ย่อมไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างแน่นอน และยิ่งถ้าเป็นผู้สูงอายุด้วยแล้ว ยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเจ็บตามข้อต่อที่เกิดจากการรับน้ำหนักตัวที่มากจนเกินไป เช่น เข่า หลัง สะโพก ซึ่งอาจทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จึงควรทานอาหารและออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เบาหวาน และความดันอีกด้วย
ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ การจัดเตรียมบ้านให้เหมาะสมเพื่อการดูแลผู้สูงอายุให้ดีขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องยาก อาจเริ่มจากย้ายห้องของผู้สูงอายุลงมาอยู่ชั้นล่าง ลดการเดินขึ้น – ลง บันไดที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย รวมไปถึงการเพิ่มราวจับในห้องน้ำ หรือห้องที่มีการใช้งานบ่อย ระมัดระวังในส่วนของพื้นต่างระดับและพยายามไม่ให้พื้นห้องน้ำเปียก เพราะผู้สูงอายุอาจลื่นได้ง่าย จัดบ้านให้เรียบร้อย มีแสงสว่างที่พอเหมาะ และมีอากาศถ่ายเท
ยืดเส้นยืดสายบ้างให้ร่างกายยืดหยุ่น การออกกำลังกายนั้นสำคัญสำหรับทุกเพศทุกวัยอยู่แล้ว และสำหรับการดูแลผู้สูงอายุนั้น การออกกำลังกายย่อมสำคัญมาก เพราะมันเหมายถึงการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ยืดหยุ่น เมื่อมีการพลัดตกหกล้มจริงก็มีโอกาสที่จะทำให้บาดเจ็บน้อยลง นอกจากนี้การออกกำลังกายยังมีส่วนช่วยให้อวัยวะภายในทำงานได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หัวใจ ปอด ระบบขับถ่าย กระดูกและกล้ามเนื้อ รวมไปถึงสมอง การออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุนั้นอาจทำท่าง่ายๆ เช่น เดินช้าๆ ยกแขน แกว่งแขนไปมา วันละ 10 – 20 นาที ก็ช่วยคลายกล้ามเนื้อไม่ให้เหนื่อยเมื่อยล้า และทำให้เลือดลมดีขึ้นอีกด้วย
พูดคุยกับผู้สูงอายุและหากิจกรรมทำร่วมกัน ผู้สูงอายุบางคนอาจจะรู้สึกเหงา หรือรู้สึกเป็นภาระสำหรับลูกหลานที่จะต้องมาคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา หลายครอบครัวจึงเลือกใช้บริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน เพื่อเป็นการลดปัญหาการต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง และลดความรู้สึกเป็นภาระของผู้สูงอายุที่ลูกหลานต้องคอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด จนลูกหลานไม่มีเวลาของตัวเอง การพูดคุยและการสื่อสารกับผู้สูงอายุทุกวันจะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลาย โดยสามารถเป็นบทสนทนาง่ายๆ เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้รู้สึกใกล้ชิดครอบครัวมากขึ้น หากมีเวลาหลังเลิกงาน หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ อาจหากิจกรรมทำร่วมกันกับผู้สูงอายุ เช่น ดูทีวี เล่นบอร์ดเกม หรือพาท่านออกไปทานข้าวนอกบ้าน พาออกไปเดินตามสวนสาธารณะหรือชายทะเล ให้ผู้สูงอายุได้รับอากาศบริสุทธิ์และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวด้วย
ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงอบายมุขที่บั่นทอนสุขภาพ การสูบบุหรี่ หรือดื่มเหล้า ไม่เคยมีผลดีกับใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ ซึ่งการลด ละ เลิก จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดต่อสุขภาพของผู้สูงอายุเอง แต่แน่นอนว่ามันคงไม่ได้เลิกกันได้ง่ายๆ ดังนั้นญาติ หรือผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจึงควรหมั่นให้กำลังใจ และชักชวนทำกิจกรรมอื่นๆ อยู่สม่ำเสมอ อีกทั้งยังควรคอยสังเกตอาการของผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดด้วย
ดูแลผู้สูงอายุอย่าให้เกิดอุบัติเหตุ สิ่งที่ต้องระมัดระวังที่สุดในการดูแลผู้สูงอายุก็คือ การระวังไม่ให้ผู้สูงอายุเกิดอุบัติเหตุ เพราะร่างกายของผู้สูงอายุนั้น ไม่ได้แข็งแรงและฟื้นตัวได้รวดเร็วเหมือนตอนเป็นหนุ่มๆ สาวๆ อีกต่อไป เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ อาจเกิดการบาดเจ็บ กระดูกหัก และอาจต้องการเวลารักษาตัวที่นานขึ้นกว่าคนอายุน้อยกว่า รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาที่จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านจึงเป็นตัวช่วยที่ดี ที่จะคอยช่วยเหลือให้ผู้สูงอายุยังได้ทำกิจวัตรต่างๆ และลดการเกิดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นแบบกะทันหัน 
สังเกตอาการผิดปกติในผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุนั้นเป็นวัยที่สามารถเจ็บป่วยได้ง่าย เนื่องจากสภาพร่างกายที่ถดถอยจากการใช้งานมานาน ดังนั้นผู้ดูแลผู้สูงอายุควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ เช่น กลืนอาหารลำบาก ท้องอืด ท้องผูก เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เบื่อง่าย ปวดเจ็บตามร่างกาย อาการต่างๆ เหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงอาการผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นภายใน เพราะบางครั้งอาการอาจจะไม่แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน แต่พอรู้ตัวอีกทีก็อาจจะเข้าสู่ภาวะที่รุนแรงแล้วก็ได้
หมั่นดูแลเรื่องสุขอนามัย ความสะอาดสำคัญมากในการดูแลผู้สูงอายุ เพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายของผู้สูงอายุนั้นไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน หากหยิบจับสิ่งสกปรกเข้าสู่ร่างกาย อาจจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าปกติมาก รวมไปถึงการชะล้าง ทำความสะอาดตามร่างกาย เช่น เล็บ ฟัน ผม ผิวหนัง ก็ควรหมั่นดูแลความสะอาดทุกวันอย่างต่อเนื่องด้วย
นัดพบแพทย์และตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรหมั่นพาผู้สูงอายุไปตรวจร่างกายประจำปีอย่างสม่ำเสมอทุกปี หรืออย่างน้อย 2 ปี เพื่อลดปัจจัยการเกิดโรคต่างๆ หากพบสิ่งผิดปกติ ก็จะได้วางแผนหาทางรับมือได้อย่างทันท่วงที การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุดูแลที่บ้านคอยช่วยสังเกตอาการผิดปกติและแจ้งญาติให้ทราบ นับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีในการคอยสังเกตการเกิดอาการผิดปกติของผู้สูงอายุก่อนที่โรคจะคืบหน้าไปจนแก้ไขรักษาได้ยากขึ้น สุดท้ายนี้ผู้สูงอายุนั้นเพียงแค่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ด้วยความรัก ความเอาใจใส่ หากเราสามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยความรัก ความเข้าใจ ก็สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ง่ายๆ และผู้สูงอายุก็จะอยู่กับเราอย่างมีความสุขความเข้าใจไปนานๆ
Cr : www.krungsri.com